ฟิลเลอร์ปาก ปรับรูปทรงปากสวย อวบอิ่ม

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรับรูปทรงปากให้สวย อวบอิ่ม ปลอดภไม่เป็นก้อน

Home » blogs » ฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรับรูปทรงปากให้สวย อวบอิ่ม ปลอดภไม่เป็นก้อน
เลือกอ่านตามหัวข้อ

ฟิลเลอร์ปาก (Lip Fillers) เป็นหนึ่งในวิธีที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปปากให้มีความอวบอิ่ม ได้รูปทรงชัดเจนมากยิ่งขึ้นนอกจากนั้นยังสามารถช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากได้หลายอย่างด้วย ส่งผลทำให้ปัจจุบันเกิดเทรนด์การฉีดปากตามเหล่าดาราเน็ตไอดอลกันอย่างมากมาย

แต่สำหรับใครที่กำลังสนใจและอยากจะลองฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่นั้น ควรจะต้องทำการศึกษาข้อมูลให้ทราบถึงรายละเอียดก่อนว่า ฟิลเลอร์ปากคืออะไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ควรเลือกฉีดปากแบบไหนและมีข้อควรรู้อะไร ข้อแนะนำอะไรจากหมอที่ต้องรู้ก่อนบ้าง ในบทความนี้หมอได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้แล้ว

ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร

ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์ปากคือ การปรับรูปปากด้วยวิธีการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค เอซิด (Hyaluronic Acidหรือ HA) ที่เป็นสารสกัดมาจากธรรมชาติมีความบริสุทธิ์สูงใกล้เคียงกับสาร HA ที่พบได้ในร่างกายมนุษย์เดิม ซึ่งสารตัวนี้จะเข้าไปทำหน้าที่ในการเติมเต็มริมฝีปากให้มีความอวบอิ่ม ปรับรูปทรงปากได้ตามใจ รวมไปถึงช่วยแก้ปัญหาปากแห้ง มุมปากตก ปากบางได้ดีอีกด้วย

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก กังนัมคลินิก
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปทรงปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีข้อดีและข้อจำกัดอะไรบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีทางการแพทย์ที่มีทั้งในส่วนของข้อและข้อกำจัดในการทำ ดังนี้

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก
  • ช่วยปรับรูปปากให้ชัด ยกมุมปาก แก้ปัญหาปากไม่เท่ากัน
  • หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผลที่ต้องมานั่งกังวลหลังทำ
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากได้ดี
  • มีความปลอดภัยสูง มีผลข้างเคียงน้อย
  • หากทำแล้วไม่พอใจผลลัพธ์ก็สามารถแก้ไขได้ง่าย

ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์แบบถาวรได้
  • หลังทำอาจเกิดรอยเข็ม
  • หลังทำอาจมีอาการบวมขึ้นได้

ทรงปากแบบไหนที่ได้รับความนิยมบ้าง

รูปทรงของริมฝีปากถือว่ามีอยู่มากมายหลายทรงด้วยกัน ขึ้นอยู่กับเทรนด์ในแต่ละช่วง แต่หลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ประมาณ 3 ทรงหลัก ๆ ที่เป็นที่ฮิตตลอดกาลดังนี้

ทรงปากเกาหลี

ทรงฉีดปากเกาหลี

จะเน้นในการปรับรูปปากให้อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้สมมาตรกับรูปหน้าของสาวเอเชีย โดยจะมีการฉีดให้ได้รูปทรงน่ารัก คล้ายกับปากกระจับแต่ไม่ได้เน้นส่วนกระจับปากให้ชัดเหมือนปากทรงกระจับ และมีการฉีดส่วนมุมปากให้มีการยกขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นรูปปากที่เหมาะกับคนเอเชียอย่างมาก

ทรงฉีดปากกระจับ

ทรงปากกระจับ

เป็นทรงปากที่จะเน้นในเรื่องของการฉีดส่วนริมฝีปากบนให้เป็นกระจับชัดเจน และจะมีการฉีดส่วนของริมฝีปากล่างให้อวบอิ่มขึ้นกว่าริมฝีปากบนเล็กน้อย ถือเป็นทรงปากที่เหมาะกับคนที่ชอบการมีรูปปากที่ชัดเจน

ทรงฉีดปากสายฝอ

ทรงปากสายฝอ

เป็นทรงปากที่ฮิตอย่างมากสำหรับสาว ๆ ที่อยากได้ลุคเซ็กซี่แบบสาว ๆ ฝั่งอเมริกา ยุโรปหรือสาวละติน ซึ่งเป็นทรงที่เน้นเพิ่มความอวบอิ่มทำให้ดูเหมือนปากเจ่อนิด ๆ และปรับเน้นส่วนขอบปากให้ชัดเจน

ทรงปากธรรมชาติ

ทรงปากธรรมชาติ

รูปปากทรงนี้จะเน้นในเรื่องของการปรับรูปปากให้สมมาตรกับใบหน้าของคนไข้เอง โดยจะเป็นการฉีดให้ริมฝีปากบนและล่างมีความเท่ากัน ทำให้ริมฝีปากอวบอิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ยังคงได้รูปปากทรงเดิมอยู่

ทรงปากมาสด้า

ทรงปากมาสด้า

เป็นทรงปากที่มาแรงในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา แต่ว่าชื่อนี้จะมีแค่คนไทยเท่านั้นที่รู้จักเพราะเป็นการเรียกตามลักษณะรูปปากที่มีความคล้ายคลึงกับยี่ห้อรถยนต์อย่างมาสด้า (MAZDA) ที่จะเน้นฉีดส่วนกระจับปากให้ชัดและฉีดปากให้โค้งมนเป็นรูปทรงตัวเอ็มนั่นเอง

ทรงปากแบบไหนที่คนไทยนิยม สำหรับคนไทยตอนนี้เรียกว่าทรงปากที่นิยมมากที่สุดนั้นก็ถือว่าจะเป็นทรงปากเกาหลีและทรงปากสายฝอ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนว่าชื่นชอบสไตล์ไหนมากกว่ากันนั่นเอง

แนะนำทรงฉีดปากตามดาราเน็ตไอดอล

โปรแกรมฟิลเลอร์ปาก รีวิวคนไข้จริง

และในปัจจุบันอีกหนึ่งเทรนด์ยอดฮิตของการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นก็คือการฉีดรูปปากตามดารา เน็ตไอดอล ซึ่งจะมีใครบ้าง เราได้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว

  • ดิว อริสรา : ทรงปากของดิว อริสรา ที่เน้นการฉีดเติมความอวบอิ่มเท่ากันทั้งริมฝีปากบนและล่าง แต่จะมีการเติมส่วนกระจับปากให้มีความชัดขึ้นมาเล็กน้อย และทิ้งส่วนร่องปากล่างให้มีความเป็นแอ่งอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก : จะเป็นทรงปากที่เหมาะมากกับคนปากเล็ก เพราะจะเป็นการฉีดเพื่อเพิ่มความอวบอิ่มเล็กน้อย และยกส่วนมุมปากให้ยกขึ้นเพื่อทำให้ใบหน้าดูหวานมากยิ่งขึ้น
  • ซงจีอา : เป็นอีกหนึ่งคนดังเกาหลีที่หลายคนชื่นชอบทรงปากของเธออย่างมาก เพราะจะเป็นทรงปากที่เน้นการยกมุมปากให้ยกขึ้นทำให้ดูเป็นสาวหวาน เหมือนคนอมยิ้มตลอดเวลา และยังมีการเติมความอวบอิ่มให้ริมฝีปากเล็กน้อยอย่างเป็นธรรมชาติ
  • จาง วอนยอง (IVE) : เป็นทรงปากที่เหมาะมากกับคนที่อยากเป็นสาวหวาน สาวเกาหลี มีความน่ารักทะนุถนอม และเป็นทรงปากที่จะช่วยทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอีกด้วย
  • Kylie jenner : เป็นทรงปากสายฝอยอดฮิตอย่างมาก โดยจะเน้นเรื่องความอวบอิ่ม ทรงปากคมชัดแต่ก็ยังให้ลุคปากเจ่อเบา ๆ เรียกว่าเป็นทรงปากที่สาว ๆ สายฝอใช้เป็นเรฟกันบ่อยมาก
  • จีเซล (AESPA) : สำหรับทรงปากของจีเซล หรือมาดามจือ จะเป็นทรงปากที่ปรับทั้งริมฝีปากบนและล่างให้อวบอิ่มเท่า ๆ กันแต่อาจจะทำให้ริมฝีปากล่างอวบขึ้นกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทำให้ปากดูเซ็กซี่ขึ้น แต่ก็ยังมีความหวานอยู่เหมาะกับสาว ๆ เอเชียอย่างมาก
  • ลิซ่า : เป็นทรงปากที่มีความอวบอิ่ม น่ารัก ให้ความหวานแบ๊ว แต่ก็แอบซ่อนความเซ็กซี่อยู่ ซึ่งเป็นทรงปากที่สาว ๆ สายหวานหรืออยากปรับลุคให้น่ารักเหมือนตุ๊กตานิยมอย่างมาก
  • จองซูมิน : เป็นอีกหนึ่งนักแสดงจากเกาหลีใต้ที่จะเป็นทรงปากที่เน้นริมฝีปากล่างให้อวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติและจะมีการฉีดเติมส่วนกระจับปากบนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทำให้ดูมีกระจับปากแต่ไม่ได้ชัดมาก
  • จ้าวลู่ซือ : เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ปากจากประเทศจีน โดยจะเน้นความอวบอิ่มและจะมีทรงปากคล้าย ๆ รูปหัวใจทำให้ใบหน้าดูหวานละมุนอย่างมาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร

ฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับใคร ฉีดแล้วช่วยอะไร
  • คนที่ต้องการปรับรูปปากให้อวบอิ่ม ให้ได้สัดส่วน ปรับส่วนขอบปากให้คมชัด
  • คนที่มีปัญหาปากบาง ปากไม่เท่ากัน มุมปากตก
  • คนที่มีอายุมากขึ้นและส่งผลทำให้เกิดริ้วรอยบนริมฝีปาก หรือเกิดปัญหาริมฝีปากเหี่ยวย่น มีขอบปากที่ไม่ชัดเจน
  • คนที่ต้องการปรับรูปปากที่อยากเห็นผลลัพธ์แบบทันที ไม่ต้องการพักฟื้นหลังทำ
  • คนที่เคยประสบอุบัติเหตุ หรือผ่านการผ่าตัดบริเวณริมฝีปากส่งผลทำให้ริมฝีปากผิดรูปจนเสียความมั่นใจ

ใครบ้างไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • ผู้ที่มีประวัติการแพ้สารไฮยาลูรอนิค เอซิค
  • ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาชา
  • ผู้ที่เป็นเริม ผื่น เป็นสิวที่ริมฝีปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นไม่มีความอันตรายใด ๆ เลยหากฉีดด้วยฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่ายการรับรองจากอย. ซึ่งแน่นอนว่าฟิลเลอร์ของแท้นั้นจะต้องฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น และก่อนฉีดหมอจะมีการเปิดกล่องต่อหน้าคนไข้ เพื่อทำการสแกนเช็คว่าฟิลเลอร์กล่องนี้เป็นของแท้จริงหรือไม่

และที่สำคัญก็ควรจะฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์ มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์ ไม่ควรฉีดกับหมอกระเป๋า พยาบาล หรือผู้ช่วยพยาบาลอย่างเด็ดขาด

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

  • ศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์รวมไปถึงตรวจเช็คคลินิกที่จะเข้ารับบริการ
  • งดการทานยากลุ่ม NSAIDs และยาแอสไพรินอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำเพื่อป้องกันอาการฟกช้ำหลังทำ
  • งดทานวิตามินกลุ่มน้ำมันปลา วิตามินอี โสม กระเทียม ใบแปะก๊วยอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำเนื่องจากกลุ่มอาหารเสริมเหล่านี้จะส่งผลทำให้เลือดหยุดไหลยาก
  • งดการสครับปากก่อนทำอย่างน้อย 2-3 เพราะอาจทำให้ริมฝีปากถูกเสียดสีจนอักเสบได้
  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนทำอย่างน้อย 1 วัน
  • งดทำกิจกรรมที่ส่งผลทำให้เลือดสูบฉีดก่อนทำอย่างน้อย 1 วัน
  • หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังทานยาบางตัวอยู่แนะนำให้ปรึกษาหมอและแจ้งหมอก่อนทำทุกครั้ง

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • เข้าประเมินกับหมอผู้ฉีด เพื่อทำการวางแผนการรักษาโดยจะต้องแจ้งทรงปากที่ต้องการ ปัญหาที่อยากจะแก้ไข เพื่อให้หมอสามารถแนะนำยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม
  • เริ่มทำความสะอาดผิวด้วยการเช็ดลิปและทายาฆ่าเชื้อก่อนฉีดฟิลเลอร์
  • ทำการประคบเย็นหรือทายาชาเพื่อทำให้ริมฝีปากเกิดอาการชาก่อนลงเข็ม
  • เริ่มทำการฉีดฟิลเลอร์ทีละจุดตามแผนการรักษา
  • เช็ดทำความสะอาดผิว ทาลิปบำรุงและฟังคำข้อปฏิบัติในการดูแลตัวเองหลังทำ

การดูแลและข้อห้ามหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก

  • หลังฉีดจะมีอาการบวมเกิดขึ้นโดยอาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน โดยสามารถใช้การประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวม
  • หากมีอาการปวดหลังทำสามารถทานยาแก้ปวดได้ตามคำแนะนำของแพทย์
  • งดการนวด แกะ เกาหรือกัดริมฝีปากหลังทำ เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวจนผิดรูปทรงได้
  • งดออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังทำ
  • เลี่ยงการทานอาหารหรือเครื่องดื่มร้อนจัดหลังทำเป็นเวลา 48 ชั่วโมงเพราะความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัว
  • เลี่ยงการทำกิจกรรมที่อยู่ในที่อากาศร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ อาบแดดหลังทำเป็นเวลา 48 ชั่วโมง
ฟิลเลอร์ปรับรูปทรงปาก ก่อนและหลังทำ
ฟิลเลอร์ปรับรูปทรงปากให้อวบอิ่ม

ฉีดปากแต่ละทรง ต้องใช้กี่ CC

ในการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นจะมีการใช้จำนวนฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-2 CC เท่านั้นโดยไม่ว่าจะเป็นการฉีดด้วยรูปทรงไหนก็ตาม แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับการประเมินของหมอผู้ฉีดร่วมด้วย

ฟิลเลอร์ปากกี่วันเข้าที่

หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ปากไปแล้วประมาณ 1-3 วันแรกจะมีอาการบวมเกิดขึ้น โดยอาการบวมจะยุบลงประมาณวันที่ 5-7 หลังฉีดทำให้ช่วงที่ฟิลเลอร์ปากเข้าที่แบบสมบูรณ์จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังฉีดนั่นเอง

ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหน รุ่นไหนเป็นที่นิยมในไทย

ในไทยตอนนี้เรามีฟิลเลอร์ปากให้เลือกอยู่มากมายหลายยี่ห้อด้วยกัน ซึ่งก็มีบางยี่ห้อที่ออกแบบรุ่นที่มีเนื้อเหมาะกับการฉีดปาก และก็มีบางยี่ห้อที่ออกแบบรุ่นที่ใช้สำหรับฉีดปากโดยเฉพาะเช่นกัน ซึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่กังนัมคลินิกแนะนำมีดังนี้

  • Restylane : เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อดังจากประเทศสวีเดน จุดเด่นในเรื่องของเนื้อละเอียดมีอนุภาคเท่ากันทำให้ฉีดง่าย ฉีดแล้วสวยอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ โดยยี่ห้อนี้ได้มีรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อสำหรับฉีดปากโดยเฉพาะอย่าง Restylane Kysse นั่นเอง
  • Juvederm : ฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา มีจุดเด่นในเรื่องของเนื้อฟิลเลอร์ที่คงทนยึกเกาะผิวได้ดี ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างมาก เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่มีหลายรุ่นที่สามารถนำมาฉีดปากได้ เช่น Juvederm Ultra Plus, Juvederm Voluma, Juvederm Volift, Juvederm Volit เป็นต้น
  • Belotero : ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาพร้อมกับคุณสมบัติเด่นคือเนื้อมีความละเอียด ยืดหยุ่น ฉีดแล้วคงตัวคงทน และมีรุ่นที่ออกแบบมาใช้สำหรับฉีดปากโดยเฉพาะคือ Belotero Lips Shape และ Belotero Lips Contour
  • Neuramis : ฟิลเลอร์จากเกาหลี โดดเด่นในเรื่องของราคาที่จับต้องได้ง่าย แต่ให้ผลลัพธ์สวยอย่างเป็นธรรมชาติไม่แพ้ยี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งรุ่นที่เหมาะกับการฉีดปากก็คือ Neuramis Deep

ฟิลเลอร์ปากอยู่นานได้กี่เดือน แต่ละรุ่นอยู่ได้นานต่างกันไหม ?

ระยะเวลาการเห็นผลของการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 4-18 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกฉีด โดยฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นจะมีอายุการเห็นผลดังนี้

  • Restylane Kysse อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Juvederm Voluma อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
  • Juvederm Volift อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Juvederm Volit อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
  • Belotero Lips Shape อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
  • Belotero Lips Contour อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
  • Neuramis Deep อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน

ฟิลเลอร์ปากของปลอม ของแท้ ดูอย่างไรให้ปลอดภัย

วิธีสังเกตก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

ปัจจุบันวิธีสังเกตฟิลเลอร์ของแท้นั้นจะมีวิธีการสังเกตอยู่หลายจุดด้วยกันขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกฉีด แต่โดยหลัก ๆ แล้วจะมีวิธีสังเกตอยู่ 3 จุดหลัก ๆ ได้แก่

  • มีฉลากภาษาไทยอยู่ในกล่อง และมีการระบุเลขอย.อยู่
  • มีเลขลอตการผลิตอยู่ 3 จุดด้วยกันคือ ที่ตัวกล่อง ฉลาก และสติ๊กเกอร์
  • มีสติ๊กเกอร์ที่มาพร้อมกับคิวอาร์โค้ดที่สามารถสแกนไปยังหน้าเว็บไซต์ของบริษัทได้

หากฉีดฟิลเลอร์ปากของปลอมจะมีอาการอย่างไรบ้าง

ในกรณีที่คนไข้ไปรับการฉีดฟิลเลอร์ของปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานมากนั้นก็อาจก่อให้เกิดอันตรายหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้น เช่น

  • มีอาการบวมอักเสบ ติดเชื้อ
  • เกิดการแพ้ระคายเคืองผิว เป็นผื่นลมพิษ
  • เกิดการฉีดแล้วผิวผิดรูป ส่งผลทำให้เสียโฉม
  • ฉีดแล้วเป็นก้อนเพราะฟิลเลอร์ปลอมไม่ได้มีเนื้อละเอียดเหมือนของแท้

ซึ่งหากเกิดอาการดังกล่าวให้รีบเข้าพบหมอเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดอันตรายถึงขั้นส่งผลต่อชีวิตได้

ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ?

ในระหว่างที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นคนไข้แทบจะไม่รู้สึกเจ็บเลย เนื่องจากว่าฟิลเลอร์หลาย ๆ รุ่นในปัจจุบันได้มีการใส่ส่วนผสมอย่าง Lidocaine หรือยาชาอยู่แล้วทำให้ช่วยลดอาการเจ็บในระหว่างฉีดได้ นอกจากนั้นก่อนฉีดหมอจะมีการใช้การประคบเย็นให้ผิวเกิดความรู้สึกชาหรือการแปะยาชาก่อนทำทุกครั้งอีกด้วย

ทำไมฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน เกิดจากสาเหตุอะไร แก้ไขอย่างไรดี ?

ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนนั้นจะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุปัจจัยด้วยกัน เช่น การฉีดโดยหมอที่ไม่มีความชำนาญ ฉีดด้วยฟิลเลอร์ของปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดด้วยปริมาณฟิลเลอร์ที่มากเกินไปจนทำให้ฟิลเลอร์กองตัวเป็นก้อน ซึ่งวิธีการรักษาก็สามารถแบ่งออก 2 แบบคือ

  1. การฉีดสลายฟิลเลอร์ ซึ่งจะสามารถทำได้กับเฉพาะในกรณีการฉีดฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น
  2. การผ่าตัด ซึ่งจะเป็นการผ่าตัดเพื่อขูดเอาเนื้อฟิลเลอร์ออกซึ่งจะใช้กับกรณีฉีดด้วยฟิลเลอร์ของปลอม

ฟิลเลอร์ปากฉีดสลายได้หรือไม่?

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเกิดเปลี่ยนใจหรือไม่พึงพอใจในผลลัพธ์คนไข้สามารถฉีดสลายด้วยตัวยาเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase หรือ HYAL) โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์หลังทำภายใน 48 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้จะสามารถฉีดสลายได้เฉพาะการฉีดด้วยฟิลเลอร์ของแท้ที่มีความบริสุทธิ์เท่านั้น และหลังจากฉีดสลายฟิลเลอร์ไปแล้วประมาณ 5-7 วันก็สามารถกลับมาฉีดฟิลเลอร์ปากใหม่อีกครั้งได้นั่นเอง

เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างไร ที่ไหนดี ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?

เลือกฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างให้ปลอดภัย

สำหรับเกณฑ์การเลือกพิจารณาคลินิกที่จะเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นหลัก ๆ จะต้องเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามกฎหมาย ดังนี้

  • คลินิกมีเลขใบอนุญาตการเปิดสถานพยาบาล 11 หลักและจะต้องมีการติดตั้งป้ายเพื่อโชว์ตัวเลขดังกล่าวในจุดที่สามารถมองเห็นได้ชัด
  • คลินิกมีการใช้อุปกรณ์เครื่องมือ ตัวยา ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่านมาตรฐานของอย.ไทย
  • คลินิกจะต้องมีหมอประจำคลินิก และจะต้องหมอเป็นผู้ทำการรักษาหัตถการฉีดให้เท่านั้น
  • บรรยากาศของคลินิกจะต้องมีความสะอาด ปลอดโปร่ง มีห้องแยกสำหรับการทำหัตถการต่าง ๆ
  • คลินิกมีการโชว์ค่าบริการรวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ครบถ้วนก่อนทุกครั้ง

ฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ราคาเท่าไร ?

อย่างที่หลายคนอาจจะทราบกันดีว่าราคาค่าฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นจะมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่คนไข้เลือกฉีด ซึ่งสำหรับราคาที่กังนัมคลินิกจะมีดังนี้

รุ่นและยี่ห้อฟิลเลอร์ราคา ต่อ 1 CCราคา ต่อ 2 CCRestylan Kys13,693 บาทลด 1,000 บาทต่อ 1 CCBelotero7,896-12,000 บาทJuvaderm10,693-15,000 บาท

โปรโมชั่น ฟิลเลอร์ปาก ที่ กังนัมคลินิก

สำหรับโปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ปากที่มาแรงอย่างมากของกังนัมคลินิกนั้นก็คือ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยฟิลเลอร์ Restylan Kys ในราคา 13,693 บาทต่อ 1 ซีซี

รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

รีวิวคนไข้จริง ฟิลเลอร์ปาก
รีวิวคนไข้จริง ฟิลเลอร์ปากสายฝอ

คำถามที่พบบ่อย

ฟิลเลอร์ปาก หรือผ่าตัดปาก เลือกทำอะไรดี?

ทั้ง 2 หัตถการนี้ถือว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยฉีดฟิลเลอร์ปากจะเป็นการฉีดเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม เพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก ส่วนการผ่าตัดปากจะเน้นไปที่การผ่าตัดเพื่อลดขนาดของริมฝีปากให้บางลง

แต่สำหรับใครที่ต้องการปรับรูปทรงที่ชัดเจนนั้นหมอแนะนำให้เลือกวิธีการฉีดฟิลเลอร์จะดีกว่าเพราะสามารถเห็นผลได้ทันที ผลข้างเคียงน้อยและแก้ไขได้ง่าย

ฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 cc กับ 2 cc มีความต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดีกว่ากัน?

ต่างกันเพียงแค่เรื่องของปริมาณเนื้อฟิลเลอร์เท่านั้นซึ่งเรื่องของปริมาณการใช้ฟิลเลอร์นั้นจะขึ้นอยู่การประเมินของหมอผู้ทำ รวมไปถึงลักษณะรูปปากเดิมของคนไข้ เช่นหากมีปากบางมาก ๆ แล้วต้องการฉีดเพิ่มความอวบอิ่มแบบสุดเหมือนปากสายฝอก็อาจจะต้องใช้ 2 CC แต่หากจะฉีดแนวทรงธรรมชาติก็อาจจะใช้เพียงแค่ 1 CC ก็เพียงพอแล้ว

ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน?

อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นจะบวมอยู่ประมาณ 3-4 วันและอาการก็จะเริ่มยุบตัวลงเรื่อย ๆ ซึ่งหากมีการดูแลตัวเองหลังทำตามที่หมอบอกอย่างเคร่งครัดก็จะช่วยบรรเทาอาการบวมได้ดีขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันถึงจะสามารถทาลิปได้

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากคนไข้สามารถทาลิปได้หลังจากทำไปแล้วประมาณ 24 ชั่วโมงซึ่งจะเป็นการรอให้รอยเข็มจากการฉีดฟิลเลอร์เกิดการสมานตัวเสียก่อนเพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อ

ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วปากช้ำ เกิดจากอะไร กี่วันหาย

อาการช้ำถือเป็นอีกหนึ่งผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ในกลุ่มคนที่มีผิวหนังที่บอบบาง เสี่ยงต่อการช้ำได้ง่ายซึ่งมักจะเป็นอาการช้ำจากรอยเข็มและจะสามารถหายไปได้เองภายใน 3-4 วัน

ฉีดฟิลเลอร์ปากบ่อย ๆ ได้ไหม

การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นไม่มีข้อห้ามในการฉีดว่าจะต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดได้กี่รอบ แต่หลัก ๆ แล้วการฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 ครั้งจะเห็นผลได้นาน 6-18 เดือนเลยทำให้ไม่จำเป็นต้องมาฉีดบ่อย ๆ แต่หากอยากเป็นการฉีดในกรณีเปลี่ยนรูปทรงปากก็สามารถทำได้เรื่อย ๆ ตามความเห็นของแพทย์

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามกินของร้อนกี่วัน

แนะนำให้เลี่ยงการทานของร้อนในช่วง 3 วันแรกเพราะจะทำให้เนื้อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเกิดการสลายตัวไวกว่าปกติ

ไม่ควรเม้มปากบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จริงเหรอ

ในช่วงแรก ๆ หมอจะไม่แนะนำให้เม้มปาก เพราะการเม้นปากจะเป็นการใช้แรงกดทับริมฝีปากทำให้เนื้อฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัวจนผิดทรงได้

ผู้ชายฉีดฟิลเลอร์ปากได้ไหม

ผู้ชายสามารถฉีดปากได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีเทรนด์การปรับรูปทรงปากให้เหมาะกับรูปหน้าแต่ละคนของผู้ชายเหมือนกัน

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ วิธีการปรับรูปทรงปาก แก้ไขปัญหาปากบาง ปากไม่เท่ากัน ปากไม่รูปทรง มุมปากตก ปากคว่ำด้วยการฉีดสารฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิค เอซิดเข้าไปทำหน้าที่แทนคอลลาเจนหรือเนื้อเยื่อริมฝีปาก ซึ่งการฉีดจะเป็นการฉีดเพื่อปั้นและปรับรูปทรงของริมฝีปากให้ได้ทรงต่าง ๆ ตามที่คนไข้แต่ละคนต้องการ

ซึ่งในปัจจุบันเทรนด์การฉีดฟิลเลอร์ปากถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะมีความปลอดภัย สามารถเห็นผลได้ทันที มีผลข้างเคียงที่น้อยมาก ๆ และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากได้ดีอีกด้วย

สอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับหัตถการความงามเพิ่มเติมหรือติดต่อเพื่อสำรองคิวกับทางคลินิกสามารถติดต่อได้ที่ Gangnam Clinic ทุกสาขาหรือทาง Line : @gangnamclinic