ฟิลเลอร์ปาก (Lip Fillers) เป็นหนึ่งในวิธีที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปปากให้มีความอวบอิ่ม ได้รูปทรงชัดเจนมากยิ่งขึ้นนอกจากนั้นยังสามารถช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากได้หลายอย่างด้วย ส่งผลทำให้ปัจจุบันเกิดเทรนด์การฉีดปากตามเหล่าดาราเน็ตไอดอลกันอย่างมากมาย
แต่สำหรับใครที่กำลังสนใจและอยากจะลองฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่นั้น ควรจะต้องทำการศึกษาข้อมูลให้ทราบถึงรายละเอียดก่อนว่า ฟิลเลอร์ปากคืออะไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ควรเลือกฉีดปากแบบไหนและมีข้อควรรู้อะไร ข้อแนะนำอะไรจากหมอที่ต้องรู้ก่อนบ้าง ในบทความนี้หมอได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้แล้ว
ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์ปากคือ การปรับรูปปากด้วยวิธีการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค เอซิด (Hyaluronic Acidหรือ HA) ที่เป็นสารสกัดมาจากธรรมชาติมีความบริสุทธิ์สูงใกล้เคียงกับสาร HA ที่พบได้ในร่างกายมนุษย์เดิม ซึ่งสารตัวนี้จะเข้าไปทำหน้าที่ในการเติมเต็มริมฝีปากให้มีความอวบอิ่ม ปรับรูปทรงปากได้ตามใจ รวมไปถึงช่วยแก้ปัญหาปากแห้ง มุมปากตก ปากบางได้ดีอีกด้วย


ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีข้อดีและข้อจำกัดอะไรบ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีทางการแพทย์ที่มีทั้งในส่วนของข้อและข้อกำจัดในการทำ ดังนี้
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก
- ช่วยปรับรูปปากให้ชัด ยกมุมปาก แก้ปัญหาปากไม่เท่ากัน
- หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผลที่ต้องมานั่งกังวลหลังทำ
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากได้ดี
- มีความปลอดภัยสูง มีผลข้างเคียงน้อย
- หากทำแล้วไม่พอใจผลลัพธ์ก็สามารถแก้ไขได้ง่าย
ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ไม่สามารถเห็นผลลัพธ์แบบถาวรได้
- หลังทำอาจเกิดรอยเข็ม
- หลังทำอาจมีอาการบวมขึ้นได้
ทรงปากแบบไหนที่ได้รับความนิยมบ้าง
รูปทรงของริมฝีปากถือว่ามีอยู่มากมายหลายทรงด้วยกัน ขึ้นอยู่กับเทรนด์ในแต่ละช่วง แต่หลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ประมาณ 3 ทรงหลัก ๆ ที่เป็นที่ฮิตตลอดกาลดังนี้

ทรงฉีดปากเกาหลี
จะเน้นในการปรับรูปปากให้อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้สมมาตรกับรูปหน้าของสาวเอเชีย โดยจะมีการฉีดให้ได้รูปทรงน่ารัก คล้ายกับปากกระจับแต่ไม่ได้เน้นส่วนกระจับปากให้ชัดเหมือนปากทรงกระจับ และมีการฉีดส่วนมุมปากให้มีการยกขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นรูปปากที่เหมาะกับคนเอเชียอย่างมาก
ทรงฉีดปากกระจับ

เป็นทรงปากที่จะเน้นในเรื่องของการฉีดส่วนริมฝีปากบนให้เป็นกระจับชัดเจน และจะมีการฉีดส่วนของริมฝีปากล่างให้อวบอิ่มขึ้นกว่าริมฝีปากบนเล็กน้อย ถือเป็นทรงปากที่เหมาะกับคนที่ชอบการมีรูปปากที่ชัดเจน
ทรงฉีดปากสายฝอ

เป็นทรงปากที่ฮิตอย่างมากสำหรับสาว ๆ ที่อยากได้ลุคเซ็กซี่แบบสาว ๆ ฝั่งอเมริกา ยุโรปหรือสาวละติน ซึ่งเป็นทรงที่เน้นเพิ่มความอวบอิ่มทำให้ดูเหมือนปากเจ่อนิด ๆ และปรับเน้นส่วนขอบปากให้ชัดเจน
ทรงปากธรรมชาติ

รูปปากทรงนี้จะเน้นในเรื่องของการปรับรูปปากให้สมมาตรกับใบหน้าของคนไข้เอง โดยจะเป็นการฉีดให้ริมฝีปากบนและล่างมีความเท่ากัน ทำให้ริมฝีปากอวบอิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ยังคงได้รูปปากทรงเดิมอยู่
ทรงปากมาสด้า

เป็นทรงปากที่มาแรงในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา แต่ว่าชื่อนี้จะมีแค่คนไทยเท่านั้นที่รู้จักเพราะเป็นการเรียกตามลักษณะรูปปากที่มีความคล้ายคลึงกับยี่ห้อรถยนต์อย่างมาสด้า (MAZDA) ที่จะเน้นฉีดส่วนกระจับปากให้ชัดและฉีดปากให้โค้งมนเป็นรูปทรงตัวเอ็มนั่นเอง
ทรงปากแบบไหนที่คนไทยนิยม สำหรับคนไทยตอนนี้เรียกว่าทรงปากที่นิยมมากที่สุดนั้นก็ถือว่าจะเป็นทรงปากเกาหลีและทรงปากสายฝอ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคนว่าชื่นชอบสไตล์ไหนมากกว่ากันนั่นเอง
แนะนำทรงฉีดปากตามดาราเน็ตไอดอล

และในปัจจุบันอีกหนึ่งเทรนด์ยอดฮิตของการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นก็คือการฉีดรูปปากตามดารา เน็ตไอดอล ซึ่งจะมีใครบ้าง เราได้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว
- ดิว อริสรา : ทรงปากของดิว อริสรา ที่เน้นการฉีดเติมความอวบอิ่มเท่ากันทั้งริมฝีปากบนและล่าง แต่จะมีการเติมส่วนกระจับปากให้มีความชัดขึ้นมาเล็กน้อย และทิ้งส่วนร่องปากล่างให้มีความเป็นแอ่งอย่างเป็นธรรมชาติ
- ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก : จะเป็นทรงปากที่เหมาะมากกับคนปากเล็ก เพราะจะเป็นการฉีดเพื่อเพิ่มความอวบอิ่มเล็กน้อย และยกส่วนมุมปากให้ยกขึ้นเพื่อทำให้ใบหน้าดูหวานมากยิ่งขึ้น
- ซงจีอา : เป็นอีกหนึ่งคนดังเกาหลีที่หลายคนชื่นชอบทรงปากของเธออย่างมาก เพราะจะเป็นทรงปากที่เน้นการยกมุมปากให้ยกขึ้นทำให้ดูเป็นสาวหวาน เหมือนคนอมยิ้มตลอดเวลา และยังมีการเติมความอวบอิ่มให้ริมฝีปากเล็กน้อยอย่างเป็นธรรมชาติ
- จาง วอนยอง (IVE) : เป็นทรงปากที่เหมาะมากกับคนที่อยากเป็นสาวหวาน สาวเกาหลี มีความน่ารักทะนุถนอม และเป็นทรงปากที่จะช่วยทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอีกด้วย
- Kylie jenner : เป็นทรงปากสายฝอยอดฮิตอย่างมาก โดยจะเน้นเรื่องความอวบอิ่ม ทรงปากคมชัดแต่ก็ยังให้ลุคปากเจ่อเบา ๆ เรียกว่าเป็นทรงปากที่สาว ๆ สายฝอใช้เป็นเรฟกันบ่อยมาก
- จีเซล (AESPA) : สำหรับทรงปากของจีเซล หรือมาดามจือ จะเป็นทรงปากที่ปรับทั้งริมฝีปากบนและล่างให้อวบอิ่มเท่า ๆ กันแต่อาจจะทำให้ริมฝีปากล่างอวบขึ้นกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทำให้ปากดูเซ็กซี่ขึ้น แต่ก็ยังมีความหวานอยู่เหมาะกับสาว ๆ เอเชียอย่างมาก
- ลิซ่า : เป็นทรงปากที่มีความอวบอิ่ม น่ารัก ให้ความหวานแบ๊ว แต่ก็แอบซ่อนความเซ็กซี่อยู่ ซึ่งเป็นทรงปากที่สาว ๆ สายหวานหรืออยากปรับลุคให้น่ารักเหมือนตุ๊กตานิยมอย่างมาก
- จองซูมิน : เป็นอีกหนึ่งนักแสดงจากเกาหลีใต้ที่จะเป็นทรงปากที่เน้นริมฝีปากล่างให้อวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติและจะมีการฉีดเติมส่วนกระจับปากบนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทำให้ดูมีกระจับปากแต่ไม่ได้ชัดมาก
- จ้าวลู่ซือ : เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ปากจากประเทศจีน โดยจะเน้นความอวบอิ่มและจะมีทรงปากคล้าย ๆ รูปหัวใจทำให้ใบหน้าดูหวานละมุนอย่างมาก
ฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร

- คนที่ต้องการปรับรูปปากให้อวบอิ่ม ให้ได้สัดส่วน ปรับส่วนขอบปากให้คมชัด
- คนที่มีปัญหาปากบาง ปากไม่เท่ากัน มุมปากตก
- คนที่มีอายุมากขึ้นและส่งผลทำให้เกิดริ้วรอยบนริมฝีปาก หรือเกิดปัญหาริมฝีปากเหี่ยวย่น มีขอบปากที่ไม่ชัดเจน
- คนที่ต้องการปรับรูปปากที่อยากเห็นผลลัพธ์แบบทันที ไม่ต้องการพักฟื้นหลังทำ
- คนที่เคยประสบอุบัติเหตุ หรือผ่านการผ่าตัดบริเวณริมฝีปากส่งผลทำให้ริมฝีปากผิดรูปจนเสียความมั่นใจ
ใครบ้างไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้สารไฮยาลูรอนิค เอซิค
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาชา
- ผู้ที่เป็นเริม ผื่น เป็นสิวที่ริมฝีปาก
ฉีดฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นไม่มีความอันตรายใด ๆ เลยหากฉีดด้วยฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่ายการรับรองจากอย. ซึ่งแน่นอนว่าฟิลเลอร์ของแท้นั้นจะต้องฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น และก่อนฉีดหมอจะมีการเปิดกล่องต่อหน้าคนไข้ เพื่อทำการสแกนเช็คว่าฟิลเลอร์กล่องนี้เป็นของแท้จริงหรือไม่
และที่สำคัญก็ควรจะฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์ มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์ ไม่ควรฉีดกับหมอกระเป๋า พยาบาล หรือผู้ช่วยพยาบาลอย่างเด็ดขาด
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
- ศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์รวมไปถึงตรวจเช็คคลินิกที่จะเข้ารับบริการ
- งดการทานยากลุ่ม NSAIDs และยาแอสไพรินอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำเพื่อป้องกันอาการฟกช้ำหลังทำ
- งดทานวิตามินกลุ่มน้ำมันปลา วิตามินอี โสม กระเทียม ใบแปะก๊วยอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำเนื่องจากกลุ่มอาหารเสริมเหล่านี้จะส่งผลทำให้เลือดหยุดไหลยาก
- งดการสครับปากก่อนทำอย่างน้อย 2-3 เพราะอาจทำให้ริมฝีปากถูกเสียดสีจนอักเสบได้
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนทำอย่างน้อย 1 วัน
- งดทำกิจกรรมที่ส่งผลทำให้เลือดสูบฉีดก่อนทำอย่างน้อย 1 วัน
- หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังทานยาบางตัวอยู่แนะนำให้ปรึกษาหมอและแจ้งหมอก่อนทำทุกครั้ง
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- เข้าประเมินกับหมอผู้ฉีด เพื่อทำการวางแผนการรักษาโดยจะต้องแจ้งทรงปากที่ต้องการ ปัญหาที่อยากจะแก้ไข เพื่อให้หมอสามารถแนะนำยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม
- เริ่มทำความสะอาดผิวด้วยการเช็ดลิปและทายาฆ่าเชื้อก่อนฉีดฟิลเลอร์
- ทำการประคบเย็นหรือทายาชาเพื่อทำให้ริมฝีปากเกิดอาการชาก่อนลงเข็ม
- เริ่มทำการฉีดฟิลเลอร์ทีละจุดตามแผนการรักษา
- เช็ดทำความสะอาดผิว ทาลิปบำรุงและฟังคำข้อปฏิบัติในการดูแลตัวเองหลังทำ
การดูแลและข้อห้ามหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก
- หลังฉีดจะมีอาการบวมเกิดขึ้นโดยอาการดังกล่าวจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน โดยสามารถใช้การประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวม
- หากมีอาการปวดหลังทำสามารถทานยาแก้ปวดได้ตามคำแนะนำของแพทย์
- งดการนวด แกะ เกาหรือกัดริมฝีปากหลังทำ เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวจนผิดรูปทรงได้
- งดออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังทำ
- เลี่ยงการทานอาหารหรือเครื่องดื่มร้อนจัดหลังทำเป็นเวลา 48 ชั่วโมงเพราะความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลายตัว
- เลี่ยงการทำกิจกรรมที่อยู่ในที่อากาศร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ อาบแดดหลังทำเป็นเวลา 48 ชั่วโมง


ฉีดปากแต่ละทรง ต้องใช้กี่ CC
ในการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นจะมีการใช้จำนวนฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-2 CC เท่านั้นโดยไม่ว่าจะเป็นการฉีดด้วยรูปทรงไหนก็ตาม แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับการประเมินของหมอผู้ฉีดร่วมด้วย
ฟิลเลอร์ปากกี่วันเข้าที่
หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ปากไปแล้วประมาณ 1-3 วันแรกจะมีอาการบวมเกิดขึ้น โดยอาการบวมจะยุบลงประมาณวันที่ 5-7 หลังฉีดทำให้ช่วงที่ฟิลเลอร์ปากเข้าที่แบบสมบูรณ์จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังฉีดนั่นเอง
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหน รุ่นไหนเป็นที่นิยมในไทย
ในไทยตอนนี้เรามีฟิลเลอร์ปากให้เลือกอยู่มากมายหลายยี่ห้อด้วยกัน ซึ่งก็มีบางยี่ห้อที่ออกแบบรุ่นที่มีเนื้อเหมาะกับการฉีดปาก และก็มีบางยี่ห้อที่ออกแบบรุ่นที่ใช้สำหรับฉีดปากโดยเฉพาะเช่นกัน ซึ่งยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่กังนัมคลินิกแนะนำมีดังนี้
- Restylane : เป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อดังจากประเทศสวีเดน จุดเด่นในเรื่องของเนื้อละเอียดมีอนุภาคเท่ากันทำให้ฉีดง่าย ฉีดแล้วสวยอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ โดยยี่ห้อนี้ได้มีรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อสำหรับฉีดปากโดยเฉพาะอย่าง Restylane Kysse นั่นเอง
- Juvederm : ฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา มีจุดเด่นในเรื่องของเนื้อฟิลเลอร์ที่คงทนยึกเกาะผิวได้ดี ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างมาก เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่มีหลายรุ่นที่สามารถนำมาฉีดปากได้ เช่น Juvederm Ultra Plus, Juvederm Voluma, Juvederm Volift, Juvederm Volit เป็นต้น
- Belotero : ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาพร้อมกับคุณสมบัติเด่นคือเนื้อมีความละเอียด ยืดหยุ่น ฉีดแล้วคงตัวคงทน และมีรุ่นที่ออกแบบมาใช้สำหรับฉีดปากโดยเฉพาะคือ Belotero Lips Shape และ Belotero Lips Contour
- Neuramis : ฟิลเลอร์จากเกาหลี โดดเด่นในเรื่องของราคาที่จับต้องได้ง่าย แต่ให้ผลลัพธ์สวยอย่างเป็นธรรมชาติไม่แพ้ยี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งรุ่นที่เหมาะกับการฉีดปากก็คือ Neuramis Deep
ฟิลเลอร์ปากอยู่นานได้กี่เดือน แต่ละรุ่นอยู่ได้นานต่างกันไหม ?
ระยะเวลาการเห็นผลของการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 4-18 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกฉีด โดยฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นจะมีอายุการเห็นผลดังนี้
- Restylane Kysse อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Voluma อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
- Juvederm Volift อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Volit อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
- Belotero Lips Shape อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
- Belotero Lips Contour อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
- Neuramis Deep อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
ฟิลเลอร์ปากของปลอม ของแท้ ดูอย่างไรให้ปลอดภัย

ปัจจุบันวิธีสังเกตฟิลเลอร์ของแท้นั้นจะมีวิธีการสังเกตอยู่หลายจุดด้วยกันขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกฉีด แต่โดยหลัก ๆ แล้วจะมีวิธีสังเกตอยู่ 3 จุดหลัก ๆ ได้แก่
- มีฉลากภาษาไทยอยู่ในกล่อง และมีการระบุเลขอย.อยู่
- มีเลขลอตการผลิตอยู่ 3 จุดด้วยกันคือ ที่ตัวกล่อง ฉลาก และสติ๊กเกอร์
- มีสติ๊กเกอร์ที่มาพร้อมกับคิวอาร์โค้ดที่สามารถสแกนไปยังหน้าเว็บไซต์ของบริษัทได้
หากฉีดฟิลเลอร์ปากของปลอมจะมีอาการอย่างไรบ้าง
ในกรณีที่คนไข้ไปรับการฉีดฟิลเลอร์ของปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานมากนั้นก็อาจก่อให้เกิดอันตรายหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้น เช่น
- มีอาการบวมอักเสบ ติดเชื้อ
- เกิดการแพ้ระคายเคืองผิว เป็นผื่นลมพิษ
- เกิดการฉีดแล้วผิวผิดรูป ส่งผลทำให้เสียโฉม
- ฉีดแล้วเป็นก้อนเพราะฟิลเลอร์ปลอมไม่ได้มีเนื้อละเอียดเหมือนของแท้
ซึ่งหากเกิดอาการดังกล่าวให้รีบเข้าพบหมอเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดอันตรายถึงขั้นส่งผลต่อชีวิตได้
ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ?
ในระหว่างที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นคนไข้แทบจะไม่รู้สึกเจ็บเลย เนื่องจากว่าฟิลเลอร์หลาย ๆ รุ่นในปัจจุบันได้มีการใส่ส่วนผสมอย่าง Lidocaine หรือยาชาอยู่แล้วทำให้ช่วยลดอาการเจ็บในระหว่างฉีดได้ นอกจากนั้นก่อนฉีดหมอจะมีการใช้การประคบเย็นให้ผิวเกิดความรู้สึกชาหรือการแปะยาชาก่อนทำทุกครั้งอีกด้วย
ทำไมฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน เกิดจากสาเหตุอะไร แก้ไขอย่างไรดี ?
ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนนั้นจะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุปัจจัยด้วยกัน เช่น การฉีดโดยหมอที่ไม่มีความชำนาญ ฉีดด้วยฟิลเลอร์ของปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือฉีดด้วยปริมาณฟิลเลอร์ที่มากเกินไปจนทำให้ฟิลเลอร์กองตัวเป็นก้อน ซึ่งวิธีการรักษาก็สามารถแบ่งออก 2 แบบคือ
- การฉีดสลายฟิลเลอร์ ซึ่งจะสามารถทำได้กับเฉพาะในกรณีการฉีดฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น
- การผ่าตัด ซึ่งจะเป็นการผ่าตัดเพื่อขูดเอาเนื้อฟิลเลอร์ออกซึ่งจะใช้กับกรณีฉีดด้วยฟิลเลอร์ของปลอม
ฟิลเลอร์ปากฉีดสลายได้หรือไม่?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเกิดเปลี่ยนใจหรือไม่พึงพอใจในผลลัพธ์คนไข้สามารถฉีดสลายด้วยตัวยาเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase หรือ HYAL) โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์หลังทำภายใน 48 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้จะสามารถฉีดสลายได้เฉพาะการฉีดด้วยฟิลเลอร์ของแท้ที่มีความบริสุทธิ์เท่านั้น และหลังจากฉีดสลายฟิลเลอร์ไปแล้วประมาณ 5-7 วันก็สามารถกลับมาฉีดฟิลเลอร์ปากใหม่อีกครั้งได้นั่นเอง
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างไร ที่ไหนดี ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?

สำหรับเกณฑ์การเลือกพิจารณาคลินิกที่จะเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นหลัก ๆ จะต้องเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามกฎหมาย ดังนี้
- คลินิกมีเลขใบอนุญาตการเปิดสถานพยาบาล 11 หลักและจะต้องมีการติดตั้งป้ายเพื่อโชว์ตัวเลขดังกล่าวในจุดที่สามารถมองเห็นได้ชัด
- คลินิกมีการใช้อุปกรณ์เครื่องมือ ตัวยา ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่านมาตรฐานของอย.ไทย
- คลินิกจะต้องมีหมอประจำคลินิก และจะต้องหมอเป็นผู้ทำการรักษาหัตถการฉีดให้เท่านั้น
- บรรยากาศของคลินิกจะต้องมีความสะอาด ปลอดโปร่ง มีห้องแยกสำหรับการทำหัตถการต่าง ๆ
- คลินิกมีการโชว์ค่าบริการรวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ครบถ้วนก่อนทุกครั้ง
ฟิลเลอร์ปากแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ราคาเท่าไร ?
อย่างที่หลายคนอาจจะทราบกันดีว่าราคาค่าฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นจะมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่คนไข้เลือกฉีด ซึ่งสำหรับราคาที่กังนัมคลินิกจะมีดังนี้
รุ่นและยี่ห้อฟิลเลอร์ราคา ต่อ 1 CCราคา ต่อ 2 CCRestylan Kys13,693 บาทลด 1,000 บาทต่อ 1 CCBelotero7,896-12,000 บาทJuvaderm10,693-15,000 บาท
โปรโมชั่น ฟิลเลอร์ปาก ที่ กังนัมคลินิก
สำหรับโปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ปากที่มาแรงอย่างมากของกังนัมคลินิกนั้นก็คือ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยฟิลเลอร์ Restylan Kys ในราคา 13,693 บาทต่อ 1 ซีซี
รีวิวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก


คำถามที่พบบ่อย
ฟิลเลอร์ปาก หรือผ่าตัดปาก เลือกทำอะไรดี?
ทั้ง 2 หัตถการนี้ถือว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยฉีดฟิลเลอร์ปากจะเป็นการฉีดเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม เพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก ส่วนการผ่าตัดปากจะเน้นไปที่การผ่าตัดเพื่อลดขนาดของริมฝีปากให้บางลง
แต่สำหรับใครที่ต้องการปรับรูปทรงที่ชัดเจนนั้นหมอแนะนำให้เลือกวิธีการฉีดฟิลเลอร์จะดีกว่าเพราะสามารถเห็นผลได้ทันที ผลข้างเคียงน้อยและแก้ไขได้ง่าย
ฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 cc กับ 2 cc มีความต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดีกว่ากัน?
ต่างกันเพียงแค่เรื่องของปริมาณเนื้อฟิลเลอร์เท่านั้นซึ่งเรื่องของปริมาณการใช้ฟิลเลอร์นั้นจะขึ้นอยู่การประเมินของหมอผู้ทำ รวมไปถึงลักษณะรูปปากเดิมของคนไข้ เช่นหากมีปากบางมาก ๆ แล้วต้องการฉีดเพิ่มความอวบอิ่มแบบสุดเหมือนปากสายฝอก็อาจจะต้องใช้ 2 CC แต่หากจะฉีดแนวทรงธรรมชาติก็อาจจะใช้เพียงแค่ 1 CC ก็เพียงพอแล้ว
ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน?
อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นจะบวมอยู่ประมาณ 3-4 วันและอาการก็จะเริ่มยุบตัวลงเรื่อย ๆ ซึ่งหากมีการดูแลตัวเองหลังทำตามที่หมอบอกอย่างเคร่งครัดก็จะช่วยบรรเทาอาการบวมได้ดีขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันถึงจะสามารถทาลิปได้
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากคนไข้สามารถทาลิปได้หลังจากทำไปแล้วประมาณ 24 ชั่วโมงซึ่งจะเป็นการรอให้รอยเข็มจากการฉีดฟิลเลอร์เกิดการสมานตัวเสียก่อนเพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อ
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วปากช้ำ เกิดจากอะไร กี่วันหาย
อาการช้ำถือเป็นอีกหนึ่งผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ในกลุ่มคนที่มีผิวหนังที่บอบบาง เสี่ยงต่อการช้ำได้ง่ายซึ่งมักจะเป็นอาการช้ำจากรอยเข็มและจะสามารถหายไปได้เองภายใน 3-4 วัน
ฉีดฟิลเลอร์ปากบ่อย ๆ ได้ไหม
การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นไม่มีข้อห้ามในการฉีดว่าจะต้องฉีดกี่ครั้ง ฉีดได้กี่รอบ แต่หลัก ๆ แล้วการฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 ครั้งจะเห็นผลได้นาน 6-18 เดือนเลยทำให้ไม่จำเป็นต้องมาฉีดบ่อย ๆ แต่หากอยากเป็นการฉีดในกรณีเปลี่ยนรูปทรงปากก็สามารถทำได้เรื่อย ๆ ตามความเห็นของแพทย์
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามกินของร้อนกี่วัน
แนะนำให้เลี่ยงการทานของร้อนในช่วง 3 วันแรกเพราะจะทำให้เนื้อฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเกิดการสลายตัวไวกว่าปกติ
ไม่ควรเม้มปากบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จริงเหรอ
ในช่วงแรก ๆ หมอจะไม่แนะนำให้เม้มปาก เพราะการเม้นปากจะเป็นการใช้แรงกดทับริมฝีปากทำให้เนื้อฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัวจนผิดทรงได้
ผู้ชายฉีดฟิลเลอร์ปากได้ไหม
ผู้ชายสามารถฉีดปากได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีเทรนด์การปรับรูปทรงปากให้เหมาะกับรูปหน้าแต่ละคนของผู้ชายเหมือนกัน
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ วิธีการปรับรูปทรงปาก แก้ไขปัญหาปากบาง ปากไม่เท่ากัน ปากไม่รูปทรง มุมปากตก ปากคว่ำด้วยการฉีดสารฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิค เอซิดเข้าไปทำหน้าที่แทนคอลลาเจนหรือเนื้อเยื่อริมฝีปาก ซึ่งการฉีดจะเป็นการฉีดเพื่อปั้นและปรับรูปทรงของริมฝีปากให้ได้ทรงต่าง ๆ ตามที่คนไข้แต่ละคนต้องการ
ซึ่งในปัจจุบันเทรนด์การฉีดฟิลเลอร์ปากถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะมีความปลอดภัย สามารถเห็นผลได้ทันที มีผลข้างเคียงที่น้อยมาก ๆ และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากได้ดีอีกด้วย
สอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับหัตถการความงามเพิ่มเติมหรือติดต่อเพื่อสำรองคิวกับทางคลินิกสามารถติดต่อได้ที่ Gangnam Clinic ทุกสาขาหรือทาง Line : @gangnamclinic