เมโสแฟต (meso fat) คืออะไร? ช่วยลดไขมันส่วนเกินบนร่างกายของเราได้จริงไหม? และมีหลักการในการสลายไขมันได้อย่างไร เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราหรือไม่ นั่นคงเป็นคำถามที่หลายคนคงจะให้ความสงสัยอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่กำลังมีความสนใจอยากจะลองฉีดเมโสแฟตครั้งแรกอยู่
ซึ่งการฉีดเมโสแฟตนั้นถือเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินได้จริง และเห็นผลได้อย่างรวดเร็วเหมาะมากกับคนที่ไม่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินด้วยการออกกำลังกายหรือผ่าตัดดูดไขมัน ดังนั้นในบทความนี้หมอเลยขอมาให้ความรู้เกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟตให้เพิ่มมากขึ้นว่าคืออะไร ดียังไง และเหมาะกับใครบ้าง
เมโสแฟต (meso fat) คืออะไร

เมโสแฟต (Meso Fat หรือ Meso Lipolysis) คือ วิธีการสลายไขมันส่วนเกินด้วยวิธีการฉีดตัวยาเข้าไป ซึ่งเป็นตัวตาที่สกัดมาจากถั่วเหลือง ไข่แดง วิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ ลงไปในชั้นไขมันเพื่อให้ตัวยาเข้าไปทำให้ผนังไขมันที่มีการจับตัวอยู่ให้เกิดการแตกตัวออกจากกันเป็นไขมันเหลว เพื่อให้ทำร่างกายสามารถขับตัวไขมันเหลวออกจากร่างกายได้ตามกระบวนการเผาผลาญไขมันตามธรรมชาติของร่างกายที่มักจะในทางปัสสาวะและอุจจาระนั่นเอง
ซึ่งวิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้ร่างกายสามารถสลายไขมันส่วนเกินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังสามารถกำหนดจุดที่ต้องการสลายไขมันได้อีกด้วย
เมโสแฟต มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

การฉีดเมโสแฟตนั้นในปัจจุบันถือว่ามีหลายแบบมาก ๆ โดยจะแบ่งกันจากส่วนผสมของตัวยา ซึ่งแต่ละแบบเองก็ถือว่ามีจุดเด่นและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป โดยหลัก ๆ จะแบ่งออกได้ 4 แบบดังนี้
- กลุ่มที่มีส่วนผสมจากถั่วและไข่แดง
กลุ่มนี้เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่สามารถพบได้เยอะในหลาย ๆ ยี่ห้อเมโสแฟต แต่ก็มีข้อเสียคือในคนไข้บางรายหากมีการฉีดไปแล้วอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ระคายเคือง มีอาการบวม มีรอยแดง รู้สึกแสบคัน มีผื่นขึ้นเป็นต้น - กลุ่มที่มีส่วนผสมจาก Hyaluronidase
เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่สามารถพบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยมักเริ่มมาจากการแข่งขันในเรื่องราคาโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกทำให้บางแห่งหันมาใช้ตัวยาที่มีส่วนผสมของสาร Hyaluronidase ซึ่งสารตัวนี้คือสารตัวเดียวกับสารที่ใช้ฉีดสลายฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งมีผลเสียอย่างมากเพราะตัวยาจะไม่ใช่แค่สลายไขมันเท่านั้นแต่ยังไปสลายคอลลาเจนและ HA เดิมในร่างกายอีกด้วย ส่งผลทำให้ผิวเกิดการยุบตัวเป็นโพรงใต้ชั้นผิวและยังส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาวเมื่อเริ่มมีอายุที่มากขึ้นอีกด้วย - กลุ่มที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์
เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่พบได้เยอะเช่นกัน ซึ่งกลุ่มนี้มีข้อดีคือในการฉีดครั้งแรกจะสังเกตเลยว่าเห็นผลได้ดี เห็นผลไวและไขมันลดลงเยอะมาก ๆ แต่หากมีการฉีดไปเรื่อย ๆ จะยิ่งทำให้เกิดการดื้อยาโดยจะเริ่มฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือในบางรายอาจเกิดเป็นหาผิวแพ้สเตียรอยด์ขึ้นได้อีกด้วย - กลุ่มที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ
กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่หมอขอแนะนำมากที่สุด ซึ่งจะใช้ตัวสารอย่าง อะมิโน เอซิด ที่เป็นสารที่พบได้ในร่างกายอยู่แล้วในการเข้าไปเร่งกระบวนการสลายไขมัน ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และยังไม่ส่งผลเสียในระยะยาวอย่างการดื้อยา ผิวย้วย ผิวเป็นคลื่นอีกด้วย
และนอกจากนั้นเมโสแฟตยังสามารถแบ่งออกได้ตามตำแหน่งที่ใช้ฉีดอีก 2 หลัก ๆ ได้แก่
- เมโสแฟตสำหรับฉีดหน้า ก็คือกลุ่มเมโสแฟตที่มีการออกแบบมาใช้สำหรับฉีดหน้าตามจุดต่าง ๆ
- เมโสแฟตสำหรับฉีดตัว ก็จัดเป็นกลุ่มเมโสแฟตที่เหมาะกับการใช้ฉีดตามจุดต่าง ๆ เช่น ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น
ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้จะมีความเข้มข้นและส่วนผสมของตัวยาที่แตกต่างกัน เนื่องจากว่าไขมันบนใบหน้าและไขมันบนร่างกายนั้นจะมีขนาดความหนาของชั้นไขมันที่ต่างกันส่งผลทำให้ต้องเลือกตัวยาเมโสแฟตให้เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งนั่นเอง
Meso Fat มีสารออกฤทธิ์หลัก ๆ อะไรบ้าง สลายไขมันได้อย่างไร

ในการฉีดเมโสแฟตนั้นจะมีตัวสารที่ทำหน้าที่ในการออกฤทธิ์หลัก ๆ อยู่ 4 ตัวสำคัญ ซึ่งแต่ละตัวเองก็จะมีหลักการทำงานในการสลายไขมันดังนี้
- Mesostabyl : ทำหน้าที่ในการช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ Lipase ช่วยสลายไขมัน พร้อมกับช่วยลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) และยังมีส่วนช่วยในการยับยั้งการสร้างคอลเรสตอรอล (cholessterol) ในชั้นเนื้อเยื่อต่าง ๆ
- Artichoke extract : มีหน้าในการช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โคเอนไซม์ (Coenzyme) ในส่วนของกระบวนการแอแนบอลิซึม (Anabolism) ทำให้ช่วยลดไขมัน ลดเซลล์ลูไลท์เฉพาะจุดได้เป็นอย่างดี
- Tyrosine : มีหน้าที่ในการเร่งกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินออกไปได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ
- L-carnitine : ทำหน้าที่ในการสลายไขมันในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายแล้วทำการเปลี่ยนเซลล์ไขมันดังกล่าวให้กลายมาเป็นพลังงาน (Fat burn) ให้แก่ร่างกาย
meso fat ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

จุดเด่นหลัก ๆ ของการฉีดเมโสแฟตนั้นก็คือ การช่วยสลายไขมันเฉพาะจุดได้เป็นอย่างดีและรวดเร็ว จึงเหมาะอย่างมากกับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดตามตำแหน่งต่าง ๆ บนร่างกาย เช่น หน้าแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา สะโพก เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้หมอแนะนำว่าให้ทำร่วมกับการออกกำลังกายและควบคุมการทานอาหารจะยิ่งทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
ฉีดเมโสแฟตเหมาะสำหรับใครบ้าง
- ผู้ที่เผชิญปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุด
- ผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายลดไขมัน
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดอย่างเร่งด่วน
- ผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วนรูปร่างให้มีขนาดที่เรียวเล็กขึ้น
ใครบ้างไม่เหมาะฉีดเมโสแฟต ?
- ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ ผื่น แพ้ มีแผลสด ควรปรึกษาหมอก่อนฉีดทุกครั้ง
- ผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาหมอก่อนฉีดทุกครั้ง
เมโสแฟต มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

สำหรับฉีดเมโสแฟตนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการช่วยสลายไขมันส่วนเกินแต่แน่นอนว่าวิธีนี้ก็ย่อมมีทั้งในส่วนของข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดีของเมโสแฟต
- ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดได้อย่างดี
- ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันได้อย่างเร่งด่วน
- ช่วยปรับสัดส่วนร่างกายให้เรียวเข้ารูปมากยิ่งขึ้น
- คนไข้สามารถกำหนดตำแหน่งที่ต้องการลดไขมันได้เอง
- ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
ข้อจำกัดเมโสแฟต
- ระหว่างฉีดอาจรู้สึกแสบจากตัวยาได้
- หลังฉีดอาจมีอาการบวมเนื่องจากตัวยาทำปฏิกิริยากับเซลล์ไขมันในร่างกาย
- ต้องฉีดกับหมอที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเท่านั้น
- ควรเลือกยี่ห้อเมโสแฟตให้เหมาะสมกับตนเอง
- ต้องฉีดกับตัวยาเมโสแฟตของแท้ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
เมโสแฟต สามารถฉีดส่วนไหนได้บ้าง ?

การฉีดเมโสแฟตนั้นในปัจจุบันสามารถใช้ฉีดได้หลายตำแหน่งด้วยกันขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมตามคำแนะนำของหมอ ซึ่งบริเวณที่เป็นที่นิยมในการฉีดเมโสแฟตนั้นจะเป็นตำแหน่ง ดังนี้
- ฉีดเมโสแฟตเหนียง : ถือเป็นจุดที่นิยมมากที่สุด ที่จะช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวเข้ารูปมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาเหนียงหรือคางสองชั้นได้เป็นอย่างดี
- ฉีดเมโสแฟตลดแก้ม : ตำแหน่งนี้จะเหมาะอย่างมากสำหรับคนที่มีปัญหาแก้มใหญ่ แก้มเยอะ และอยากปรับรูปหน้าให้เรียววีเชฟมากยิ่งขึ้น
- ฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง : จุดนี้เหมาะมากกับคนที่อ้วนลงพุง มีพุงหลายชั้น หรือคนที่ต้องปรับส่วนเอวให้คอดเข้ารูปมากยิ่งขึ้น
- ฉีดเมโสแฟต ต้นแขน ต้นขา : เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่เมื่อมีไขมันไปสะสมแล้วจะทำการลดได้ยากมาก ๆ ซึ่งการฉีดเมโสแฟตเข้าไปจะช่วยปรับต้นแขนและต้นขาให้เรียวเล็กขึ้น ลดปัญหาเซลล์ลูไลท์ได้เป็นอย่างดี
- ฉีดเมโสแฟตน่อง : ปัญหาน่องใหญ่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่สาว ๆ หลายคนไม่อยากเผชิญดังนั้นจึงเหมาะอย่างมากกับการฉีดเมโสแฟตเพื่อลดน่องให้น่องเรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
- ฉีดเมโสแฟตสะโพก : การฉีดเมโสแฟตในตำแหน่งนี้จะช่วยปรับสัดส่วนของสะโพกให้ได้รูปมากยิ่งขึ้น สะโพกจะชัดขึ้นทำให้หุ่นดูเซ็กซี่ขึ้นเล็กน้อย
การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต
- ศึกษาข้อมูลหัตถการ ยี่ห้อเมโสแฟตที่จะเลือกฉีดรวมไปถึงคลินิกและแพทย์ผู้ทำให้ดีว่าเป็นตัวยาของแท้ และคลินิกได้มาตรฐานหรือไม่
- ก่อนทำควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดการขัดหรือสครับผิวก่อนทำ เพราะอาจจะทำให้ผิวระคายเคืองเป็นรอยแดง รอยเข็มได้ง่ายกว่าปกติ
- เลี่ยงการทานยากลุ่มแอสไพรินและวิตามินอาหารเสริมประเภทน้ำมันปลา แปะก๊วย วิตามินอีเป็นต้น เนื่องจากจะส่งผลทำให้เลือดหยุดไหลยากและกระตุ้นอาการบวมหลังทำได้
ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
- เข้าประเมินเพื่อวางแผนการรักษากับหมอผู้ทำหัตถการ รวมไปถึงการวางจุดที่จะฉีดตัวยาเมโสแฟต
- เริ่มทำความสะอาดใบหน้า เช็ดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกจนหมด
- แปะยาชาหรือใช้การประคบเย็นเพื่อทำให้ผิวชาก่อนเริ่มลงเข็ม
- เริ่มลงเข็มและฉีดตัวยาข้าสู่ชั้นไขมันทีละจุดขนครบแผนการรักษา
- เช็ดทำความสะอาดผิวแปะปลาสเตอร์และรับฟังคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังทำจากหมอ
การดูแลตนเองหลังจากฉีดเมโสแฟต
- งดการกด นวดผิวในตำแหน่งที่ฉีดเมโสแฟต เพราะจะไปกระตุ้นอาการอักเสบหลังทำได้
- หลังทำจะมีอาการบวมแนะนำให้ใช้การประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว
- เลี่ยงการเผชิญความร้อน เช่น การอาบแดด ซาวน่า เพราะจะไปกระตุ้นการบวมมากยิ่งขึ้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน เพื่อให้ร่างกายสามารถขับไขมันออกผ่านทางปัสสาวะได้
- งดการทำทรีตเม้นท์ผิวที่ต้องใช้ความร้อนอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ รวมไปถึงงดการนวดหน้า 1 สัปดาห์หลังทำ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะไปกระตุ้นการบวม
- หลังฉีดแนะนำให้ออกกำลังกายและควบคุมการทานอาหารควบคู่เพื่อให้ไขมันสลายได้ดีและลดโอกาสเกิดไขมันสะสมซ้ำเดิม
ฉีดเมโสแฟตมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
อาการผลข้างเคียงที่มักเกิดขึ้นหลังจากที่ฉีดเมโสแฟตก็จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่
- ผลข้างเคียงแบบปกติ : ที่มักจะมีแค่อาการบวมและแสบผิวเนื่องจากตัวยาทำปฏิกิริยากับไขมันในชั้นผิว ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง
- ผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย : ได้แก่ อาการใจสั่น มีผื่น ลมพิษ หายใจติดขัด ซึ่งมักเกิดขึ้นกับกลุ่มคนที่มีอาการแพ้ตัวยาเมโสแฟต ซึ่งหากพบว่ามีอาการดังกล่าวให้รีบเข้าพบหมอเพื่อรับการรักษาอย่างทันที
เมโสแฟต meso fat มีทั้งหมดกี่ยี่ห้อ ยี่ห้อไหนดี

ณ ตอนนี้ถือว่าในไทยเรามียี่ห้อเมโสแฟตให้เลือกอย่างมากมายหลายยี่ห้อด้วยกัน ซึ่งแต่ละยี่ห้อเองก็ล้วนมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งวิธีเลือกก็คือควรทำการศึกษาข้อมูลแต่ละยี่ห้อว่าตัวยาผลิตจากอะไร เช่น ถั่ว ไข่แดงหรือสกัดจากสารธรรมชาติ ซึ่งแนะนำว่าการเลือกฉีดยี่ห้อที่สกัดมาจากธรรมชาติจะดีกว่าเพราะปลอดภัยสามารถฉีดต่อได้เรื่อย ๆ ในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันยี่ห้อเมโสแฟตที่เป็นที่นิยมในไทยจะมีดังนี้
- ยี่ห้อ FNC30
- ยี่ห้อ babi-lone
- ยี่ห้อ Mesoestetic
- ยี่ห้อ PHYOBELLA
- ยี่ห้อ Neobella
- ยี่ห้อ Babi Neo One
เมโสแฟต อยู่ได้นานแค่ไหน กี่เดือน
การเห็นผลลัพธ์หลังฉีดเมโสแฟตนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วย เพราะหลักการทำงานของเมโสแฟตคือการสลายไขมันส่วนเกินซึ่งหากคนไข้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็จะสามารถช่วยทำให้การเห็นผลลัพธ์นั้นยาวนานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
เมโสแฟต กี่วันถึงจะเห็นผล
โดยปกติแล้วหลังจากฉีดเมโสแฟตไปคนไข้จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ฉีดไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์โดยจะรู้สึกว่าไขมันมีการสลายไปประมาณ 20-30% ซึ่งหากคนไข้ยังไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์
ขณะฉีดเมโสแฟตเจ็บไหม ?
ในระหว่างที่ทำการฉีดเมโสแฟตนั้นคนไข้อาจจะรู้สึกถึงความเจ็บหรือแสบได้ในระหว่างเดินยา แต่ทั้งนี้ก่อนทำจะมีการใช้วิธีการแปะยาชาหรือการประคบเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บอีกร่วมด้วย
meso fat อันตรายไหม
การฉีดเมโสแฟตถือเป็นวิธีที่ไม่มีความอันตรายใด ๆ เลยและยังเป็นวิธีที่เห็นผลลัพธ์ได้ดีโดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นหลังทำอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกฉีดเมโสแฟตตัวที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก อย. เท่านั้น เนื่องจากว่าปัจจุบันในท้องตลาดก็ยังคงมีตัวยาเมโสแฟตที่ทางอย. ได้ประกาศว่ามีความอันตรายวางขายอยู่โดยเมโสแฟตกลุ่มนี้จะมีราคาที่ถูกมาก ๆ ซึ่งเมโสแฟตสูตรที่ อย.ประกาศว่าอันตรายมีอยู่ด้วยกัน 2 สูตรดังนี้
- สเตียรอยด์ (Steroids)
กลุ่มตัวยาสเตียรอยด์ถือว่าเป็นยาที่สามารถพบได้ในการหัตถการฉีดรักษาสิว ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีคลินิกหลาย ๆ แห่งที่ไร้จรรยาบรรณที่แอบเอาสเตียรอยด์มาผสมกับยาเมโสแฟตเพื่อลดต้นทุนแต่จะส่งผลเสียอย่างมากต่อคนไข้เพราะจะเสี่ยงทำให้หน้าเกิดการเสี่ยงติดเชื้อได้ ทำให้ฉีดแล้วหน้นาบวมมากกว่าปกติ และยังไปส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มีประสิทธิภาพลดลงอีกด้วย - ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase)
ตัวสารไฮยาลูโรนิเดส เป็นสารที่พบได้ในหัตถการฉีดสลายฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งจะทำหน้าที่ในการสลายสารไฮยาลูรนิค เอซิดในร่างกายและยังส่งผลทำให้คอลลาเจนในผิวถูกทำลายอีกด้วย ซึ่งถือว่าหากฉีดเข้าไปแล้วอาจทำให้ผิวเกิดเป็นโพรงและยุบตัวลงเป็นหลุมได้นั่นเอง
รีวิว meso fat
สำหรับที่กังนัมคลินิก เราเองก็มีบริการฉีดเมโสแฟตด้วยทีมแพทย์มากประสบการณ์ โดยจะมีรีวิวจากลูกค้าจริงดังนี้



ฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี ต้องพิจารณาอะไรบ้าง
ข้อสำคัญอย่างมากของการฉีดเมโสแฟตให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นก็คือการเลือกรับบริการกับคลินิกที่ได้คุณภาพ ได้มาตรฐานความปลอดภัย โดยมีเกณฑ์การพิจารณาดังนี้
- คลินิกมีการขออนุญาตการเปิดสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- มีใบอนุญาตการเปิดคลินิกที่มีเลข 11 หลักที่สามารถตรวจสอบได้กับทางกระทรวงสาธารณสุข
- คลินิกจะมีหมอเป็นผู้ทำการฉีดทำหัตถการให้ และต้องเป็นหมอที่มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์ที่ออกโดยแพทย์สภา
- คลินิกมีการระบุราคาค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน และมีการแจ้งราคาให้ลูกค้าก่อนตัดสินใจโดยไม่มีการบวกเพิ่มภายหลัง
- คลินิกมีรีวิวจากลูกค้าจริงที่สามารถเชื่อถือได้
- คลินิกมีที่ตั้ง ที่อยู่ชัดเจนหรือยิ่งหากมีหลายสาขาก็จะยิ่งดี เพราะการมีหลายสาขายิ่งเป็นการการันตีถึงการประสบความสำเร็จของคลินิก
ฉีดเมโสแฟต (meso fat) ราคาเท่าไหร่
ราคาโปรโมชั่นค่าฉีดเมโสแฟตนั้นนอกจากจะขึ้นอยู่กับคลินิกที่เข้ารับบริการแล้ว ยังขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ลูกค้าแต่ละท่านเลือกฉีดอีกด้วย โดยสำหรับราคาโปรโมชั่นที่กังนัมคลินิกจะมีดังนี้
SISI สูตร Face (Korea)
- 1 ขวด 2,990 บาท
- 2 ขวด 4,990 บาท
- 5 ขวด 9,990 บาท
- 10 ขวด 18,000 บาท
SISI สูตร Body (Korea)
- 1 ขวด 4,990 บาท
- 2 ขวด 8,990 บาท
- 5 ขวด 20,000 บาท
- 10 ขวด 35,000 บาท
Meso Fat (Spain)
- 1 เข็ม 1,500 บาท
- 5 เข็ม 6,500 บาท
- 10 เข็ม 10,000 บาท
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดแฟต
เมโสแฟตกับโบท็อก ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ: ทั้ง 2 ตัวนี้มีข้อแตกต่างกันหลัก ๆ คือหลักการทำงานโดยเมโสแฟตจะทำงานในการสลายไขมันส่วนเกิน ส่วนโบท็อกซ์จะเป็นการทำงานกับระบบประสาทส่วนควบคุมกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อหดตัวลง ซึ่งการฉีดเมโสแฟตจึงเหมาะกับคนที่มีไขมันเยอะ ส่วนโบท็อกซ์จึงเหมาะกับคนที่มีขนาดกล้ามเนื้อใหญ่นั่นเอง แต่ทั้ง 2 หัตถการสามารถทำร่วมกันได้
ฉีดสลายไขมันแก้มด้วยเมโสแฟต vs ฉีดโบท็อกซ์กราม vs ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม
ตอบ: ทั้ง 3 วิธีนั้นถือว่าเป็นวิธีตัวช่วยในการปรับรูปหน้าให้เรียวเข้ารูปมากยิ่งขึ้น แต่ก็ถือว่าเป็น 3 หัตถการที่มีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เช่น
- การฉีดสลายไขมัน : การฉีดตัวยาเข้าไปสลายไขมันให้แตกตัวและถูกขับออกจากผ่านทางปัสสาวะ อุจจาระ เหมาะกับคนที่มีแก้มเยอะ มีไขมันสะสมที่แก้มและเหนียงเยอะ
- การฉีดโบท็อกซ์กราม : การฉีดตัวยาเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อกรามหดตัวลงชั่วคราว เหมาะกับคนที่มีกระดูกกรามใหญ่
- การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม : การผ่าตัดเพื่อเอาไขมันส่วนแก้มออกไปทำให้หน้าเรียวเข้ารูปมากขึ้น เหมาะกับคนที่มีไขมันแก้มเยอะ แต่วิธีนี้ต้องพักฟื้นหลังทำ
ถาม: เมโสแฟต vs โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า vs hifu vs ดูดไขมันเหนียง
ตอบ: ทั้ง 4 วิธีคือตัวช่วยในการปรับหน้ารูปหน้าให้เรียวและช่วยยกกระชับผิวส่วนกรอบหน้าได้เป็นอย่างดี โดยจะมีความแตกต่างกันดังนี้ - เมโสแฟต : การสลายไขมันเฉพาะจุดด้วยการฉีดตัวยา จะเห็นผลลัพธ์หลังทำไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์โดยไขมันจะลดลงประมาณ 20-30% ต่อครั้งขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละคน
- โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า : การปรับหน้าเรียวด้วยการฉีดตัวยาเพื่อไปทำให้กล้ามเนื้อกรอบหน้าเกิดการหดเกร็งตัว หน้าจึงเรียวเข้ารูปมากยิ่งขึ้น จะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนหลังทำไปแล้วประมาณ 1 เดือน
- Hifu : การใช้คลื่นอัลตราซาว์เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวให้เพิ่มขึ้น ปรับผิวกรอบหน้าให้กระชับ เต่งตึง จะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนหลังทำไปแล้วประมาณ 1 เดือน
- ดูดไขมันเหนียง : ใช้นวัตกรรมเครื่องดูดเอาไขมันออก สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที แต่วิธีนี้จะต้องพักฟื้นหลังทำและมีราคาที่แพงกว่าวิธีอื่น ๆ
เมโสแฟต 10 cc เยอะไหม? meso fat 1ขวด มีกี่ CC ?
ตอบ: สำหรับเมโสแฟตจำนวน 1 จะมีปริมาณตัวยาอยู่ที่ 10 CC ซึ่งถือเป็นปริมาณที่เหมาะสมต่อการฉีดแต่ละครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการประเมินของหมอแต่ละคนร่วมด้วย
ฉีดสลายไขมันหน้าท้องเจ็บไหม ?
ตอบ: จะรู้สึกเจ็บได้ในระหว่างที่มีการเดินยาลงผิว ซึ่งจะเป็นความรู้สึกเจ็บและมีอาการแสบเล็กน้อย แต่อยู่ในระดับที่สามารถทนได้ค่ะ
สามารถซื้อเมโสแฟต ฉีดเองได้ไหม ?
ตอบ: หมอไม่แนะนำให้คนไข้ไปซื้อเมโสแฟตแล้วมาฉีดเองอย่างเด็ดขาด เนื่องจากตัวยาเมโสแฟตของแท้ที่ได้มาตรฐานส่วนใหญ่จะขายให้แก่คลินิกความงามเท่านั้นซึ่งตัวที่วางขายตามอินเทอร์เน็ตนั้นเสี่ยงเป็นของปลอมสูง เมื่อฉีดไปแล้วอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ นอกจากนั้นการฉีดเมโสแฟตควรจะต้องฉีดกับหมอที่มีความรู้เกี่ยวกับสรีระร่างกายเป็นอย่างดี เพราะในร่างกายเราประกอบไปด้วยเส้นเลือดและเส้นประสาทส่วนสำคัญหลายจุดหากฉีดไปโดนอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
ฉีดเมโสแฟต แล้วเป็นก้อน ?
ตอบ: อาจเกิดขึ้นได้กับคนที่ฉีดกับหมอที่อาจจะไม่มีประสบการณ์ในการฉีดเมโสแฟตที่มากพอ และอาจฉีดด้วยตัวยาเมโสแฟตที่ไม่มีคุณภาพนั่นเอง
คนท้องสามารถฉีดเมโสแฟตได้ไหม ?
ตอบ: การฉีดเมโสแฟตไม่เหมาะกับคนที่กำลังท้องหรืออยู่ในช่วงในนมบุตร เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อเด็กได้ ซ
เมโสแฟต ต้องฉีดกี่ครั้ง ครั้งที่สองต้องเว้นจากครั้งแรกกี่วัน ?
ตอบ: การฉีดเมโสแฟตสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่สำหรับที่มีไขมันเยอะอาจจะต้องมีการฉีดย้ำหลายรอบเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยการฉีดแต่ละครั้งควรเว้นห่างกันประมาณ 2-3 สัปดาห์
ฉีดเมโสแฟตลดเหนียง บวมกี่วัน ?
ตอบ: โดยส่วนใหญ่แล้วอาการบวมหลังฉีดเมโสแฟตนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 วันเท่านั้นแล้วอาการดังกล่าวก็จะค่อย ๆ ยุบไปเอง
ฉีดเมโสแฟตไม่เห็นผล เกิดจากอะไร
ตอบ: เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น การมีไขมันสะสมในตำแหน่งนั้นเยอะจนทำให้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนจึงต้องฉีดซ้ำ หรือฉีดกับตัวยาที่ไม่มีคุณภาพ ใช้ปริมาณตัวยาที่น้อยเกินไป หรือฉีดกับหมอที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดเมโสแฟตนั่นเอง
ฉีดเมโสแฟตร่วมกับการทำหัตถการอื่น ๆ ได้หรือไม่
ตอบ: สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้ก่อนทำก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง เนื่องจากว่าบางหัตถการอาจจะต้องมีการเว้นระยะเพื่อลดการเกิดผลข้างเคียงนั่นเอง
สรุป
การฉีดเมโสแฟต คือ วิธีการสลายไขมันเฉพาะจุดด้วยวิธีการฉีดตัวยาเข้าไปทำหน้าที่เร่งกระบวนการเผาผลาญและทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะหรืออุจจาระ ซึ่งเป็นวิธีที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันเนื่องจากว่ามีความปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ที่ไวและไม่ต้องพักฟื้น
นอกจากนั้นในปัจจุบันยังมียี่ห้อเมโสแฟตให้เลือกมากมาย ที่ทั้งนี้ก็ควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกใช้เมโสแฟตที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย. แล้วเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง
สอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับหัตถการความงามเพิ่มเติมหรือติดต่อเพื่อสำรองคิวกับทางคลินิกสามารถติดต่อได้ที่กังนัมคลินิกทุกสาขาหรือทาง Line : @gangnamclinic